เข้าระบบอัตโนมัติ

เรียงลำดับก่อน-หลังของพรรคดัง


  • 1
  • 2
lastphenix
#1   lastphenix    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

ท่านเซียนทั้งหลายครับ ผมมีปัญหาข้องใจเรื่องลำดับการเกิดก่อน-หลังของพรรคหรือสำนักดังๆ ในนิยายจีน โดยเฉพาะที่ปรากฎในเรื่องมังกรหยกทั้ง 3 ภาค ตัวอย่างเช่น

วัดเส้าหลิน (อันเดียวกับเสี้ยวลิ้มยี่ใช่มั้ยครับ) พรรคกระยาจก สำนักช้วนจิน (ภาคเตียบ่อกี้สำนักนี้หายไปไหนครับ) ในภาค 1-2 รู้สึกจะไม่ค่อยมีพรรคใหญ่ๆ เลยใช่มั้ยครับ จอมยุทธ์ส่วนใหญ่มากันเดี่ยวๆ เลย ที่เหลือก็เป็นพรรคเล็กพรรคน้อย เช่น พรรคฝ่ามือเหล็ก พรรคอูฐขาว พวกนี้ใครเกิดก่อนเกิดหลังครับ

ส่วนพวกที่น่าจะมาทีหลังแน่ๆ อย่าง สำนักบู๊ตึ๊ง สำนักง้อไบ๊ สำนักหัวซาน สำนักคุนลุ้น พรรคเม้งก่า พรรคอินทรีย์ แต่ก็ไม่รู้ว่าในกลุ่มพวกนี้ใครมาก่อนมาหลัง

รบกวนท่านที่รู้ชี้แนะด้วยนะครับ สงสัยมานานแล้ว ขอบคุณมากครับ



EXXR
#2   EXXR    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

ที่แน่ๆเลย ก็
1 เส้าหลิน
2 กระยาจก
3 เม้งก่า



เซี่ยวป้อ (nightwind
#3   เซี่ยวป้อ (nightwind    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

ช้วนจินโดนมองโกลทำลายไปตั้งแต่มังกรหยกภาค 2 แล้วครับ เลยไม่ปรากฎในภาคเตียบ่อกี้



lastphenix
#4   lastphenix    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

ช้วนจินเคยเผาสำนักหลบหนีภัยมองโกล แต่ศิษย์ช้วนจินยังอยู่ เท่าที่จำได้ ตอนวันเกิดก๊วยเซียงอายุ 16 ปี แล้วก๊วยเจ๋งจัดชุมนุมชาวยุทธ นักพรตเจ้าสำนักช้วนจินยังมาร่วมงานเลยไม่ใช่เหรอครับ คิดว่าน่าจะไปตั้งสำนักใหม่นะ หรือผมจำผิดหว่า ชี้แนะด้วยครับ

ผมก็คิดว่าเส้าหลินน่าจะมาก่อนเพื่อนนะ แล้วก็พรรคกระยาจก แต่เม้งก่านี่ไม่เห็นมีพูดถึงในภาค 1-2 เลยนี่ครับ



ปวยพ้ง
#5   ปวยพ้ง    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

ตามบทประพันธ์ท่านกิมย้ง ก็ต้องเรียงลำดับเรื่อง

- แปดเทพฯ
- มังกรหยก1
- มังกรหยก2
- ดาบมังกรหยก

==>ในแปดเทพฯตัวละครหลักคือเซียวฟง เป็นทั้งศิษย์เส้าหลิน และเป็นประมุขพรรคกระยาจก ดังนั้นทั้งสองพรรคนี้จัดว่าอยู่ในยุคแรก แต่ที่รู้ๆกันอยู่ว่าที่มาของทุกสำนักมาจากท่านตั๊กม้อแห่งเส้าหลิน ดังนั้นจัดอันดับแรกคือ เส้าหลิน อันดับสองพรรคกระยาจก


==> สำนักช้วนจินเริ่มปรากฎในมังกรหยกภาคแรก ดังนั้นเป็นอันดับ 3

==> ง่อไบ๊ บู๊ตึ้ง เกิดไล่เลี่ยกันในดาบมังกรหยก จำไม่ได้ว่าใครเกิดก่อนกัน

==> ส่วนพรรคเม้งก่า ถ้าให้เทียบยุคคงลำบาก เพราะเป็นพรรคที่มาจากชาติอื่น แต่คงเริ่มเข้ามาในจีนช่วงดาบมังกรหยก จึงพึ่งปรากฎชื่อครั้งแรก

รอท่านอื่นมาสร้างความกระจ่างเพิ่มเติมครับ



อ้ายหนุ่มพลังม้า
#6   อ้ายหนุ่มพลังม้า    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

เล่าจากเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ นะครับ


สำนักวัดเส้าหลิน ยังไงก็ อันดับ 1 ของยุทธภพ ครับ... หลวงจีนหลายองค์ที่ไม่มีชื่อ สำเร็จ วิทยายุทธ ขั้นสูงมากมายๆเก่งกล้า กว่า จอมยุทธ คนอื่นๆ ในยุทธภพ ในวัดเส้าหลิน มีเยอะ ด้วยครับ แต่ ยิ่งเข้าทางธรรมลึกเข้าเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่อยาก ออกมายุ่งเกี่ยวกับ เรื่องในยุทธภพ เท่านั้น ...คล้ายๆที่ มังกรหยก 3 ..กับ 8 เทพ ขืนออกมายุ่งย่ามกับสังคมมนุษย์ หนทางนิพพาน ก็ยิ่งหลีกหนีไปอีกปล่อยมันเป็นไปตามกรรม...ดีกว่า
ที่เห็นหนะครับ ถ้าหลวงจีนเหล่านี้เกิดออกมาลุย กันจริงๆเมื่อไหร่ บูลิ๊มคงไร้คนต่อกร


พรรคเม้งก่า และ พรรคบัวขาว นี่มีมา ตั้งแต่ สมัยราชวงศ์ ยุค ราชวงศ์เหนือใต้ เป็นพรรค ที่ ทางการจีน ทุกราชวงศ์ ต้องหาทางกำจัด เพราะอะไร..ก็ลองนึก ถึง กองทัพผ้าเหลือง(สมัยฮั่นนะครับไม่ใช่ สมัย สนติ๊) มีกำลังมากเมื่อไหร่ อาจเป็น ภัยต่อ ความมั่นคงของราชวงศ์ได้ พรรคนี้ก้คงยังสืบทอดอุดมการณ์ แบบ แอบๆ มาจนถึงราชวงศ์ชิง

พรรคบัวขาวก็ยังแอบสืบทอดอุดมการณ์มาเรื่อยๆ ตั้งแต่โดนไล่กำจัด ยุค จูหยวนจาง ฮ่องเต้ปฐมราชวงศ์หมิง จนถึงยุคราชวงศ์ชิง มีกบฏประชาชน ที่ไหนต้องมีชื่อพรรคบัวขาว เข้าไปเกี่ยวข้องเสมอ มีกันกล่าวกันว่า ดร. ซุนยัตเซน ประธานาดิบดีคนแรกของจีน ก็เป็น คน ของ พรรคบัวขาว(วิวัฒนาการอุดมการณ์มาเรื่อยๆ ตามสถาณการณ์ )



บู๊ตึ๊ง ต้นยุคราชวงศ์หมิง ด้วย วิทยายุทธไทเก๊ก(ไท่จี๋) จากศาสตร์ของเต๋า ตอนแรกมีแต่ นักพรต ที่ได้ฝึก(ชั้นสูง) ต่อมาเริ่มถ่ายทอดให้กับ คนธรรมดา(ชั้นรองลงมา) จน พํฒนา กลายเป็น ไทเก๊ก แซ่ซุน แซ่หยาง ... แพร่หลายไปทั่วโลก(ทั้งไทเก๊กเพื่อสุขภาพ และ ไทเก๊กเพื่อการต่อสู้) ไท่เก๊กของแท้ ที่ใช้ในการต่อสู้มีการสอนกันที่ ประเทศจีนทุกวันนี้ครับ จางซันฟงปรมาจาร์ยไทเก็ก ไม่ได้เป็นลูกศิษย์เก่าของวัดเส้าหลิน นะครับ แนวทางของจางซันฟง เป็น แนวทางเต๋า ไม่ใช่ ทางเซ็น พุทธ ของเส้าหลิน.. แต่ก็คงมีการเดินทางไปเยี่ยมเยียน และ ถกปรัชญาแห่งชีวิต กันไปๆมาๆบ่อยๆ



ง๊อไบ๊ คุณหลุน เนื่องจากเป็น สำนักที่ใช้ชื่อ ขุนเขา ตั้ง คิดว่า คงมีหลายสำนักๆๆๆๆ มากๆ ที่นั่น อีกทั้ง วรยุทธ ของสำนักเหล่านั้นก็ไม่ได้แพร่หลาย เท่าไหร่ในจีน... เรามักได้รู้จักว่าเป็น พรรคระดับบิ๊กๆ ในยุทธภพ เท่านั้น

พรรคกระยาจก... อันนี้ผมไม่ทราบความเป็นมาครับ แต่จริงๆ คงมีหละไปใหนก็มี ยาจก...


ส่วน สำนัก ชวนจิงก่า มีจริงๆ ครับ ไม่ใช่แค่ในนิยาย เพราะ ศิษย์ชวนจิงก่า ที่ โด่งดัง และมีชื่อ ติดอยู่ใน พงศาวดาร ระดับชาติของจีนและมองโกล อย่าง คูซู่กู นั้น ขนาด เจงกิสข่าน ขอเชิญ ไปสอบถาม หนทางเป็น อมตะ(คูซ่กู แม้อายุมากแล้ว แต่หน้าตายังดูหนุ่มๆ) แต่สุดท้ายก็ โดน คูซู่กู เทศน์ ซะ....ปลงไม่ตก เลย

บรรดา ศิษย์ ร่วมรุ่นของ คู่ซูกู ทั้ง 6 (บวกคู่ซูกู เป็น 7) ก็มีการพูดถึง ในประวัติศาสตร์ทางวิชากำลังภายในชี่กง ซึ่งมีตัวตนจริงๆๆๆ

ส่วนเฮงเต็งเอี๊ยง ในนิยาย ไม่แน่ใจว่ามีตัวตนจริงๆหรือเปล่า แต่ จิวแป๊ะทง นี่ กำเนิดจากนิยาย เท่านั้นครับ



lastphenix
#7   lastphenix    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

คุณปวยพ้งครับ ช่วยขยายความที่ว่าพรรคเม้งก่ามาจากชาติอื่นนี่ชาติไหนเหรอครับ ทางแถบมองโกลหรือเปล่าครับ

ขอบคุณอ้ายหนุ่มพลังม้าที่ช่วยอธิบายครับ

มีข้อสงสัยอีกอย่างหนึ่ง ไม่รู้คิดมากไปหรือเปล่า เรื่องเตียซำฮงแกอายุ 90 แล้ว แต่บรรดาศิษย์เอกของแกทั้ง 7 คน ยังหนุ่มน้อยกันอยู่เลย แล้วก่อนหน้านั้นตั้งหลายสิบปีเตียซำฮงแกไม่สอนใครเลยหรือ



ปวยพ้ง
#8   ปวยพ้ง    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

ในเนื้อหาดาบมังกรหยกมาจากแถบเปอร์เซียครับ ผมค้นข้อมูลเพิ่มเติมมาให้ครับ


ลัทธิมณี ซึ่งถือกำเนิดในบริเวณอ่าวเบงกอล ประเทศอินเดีย
(ลัทธิมณี เป็นความเชื่อเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างความดีและความเลว เป็นความเชื่อที่สืบต่อมาจากลัทธิโซโรแอสเตอร์ทางแถบเปอร์เซีย
แต่ผนวกเอาความเชื่อของพุทธศาสนาเข้าไปด้วย)

ก่อนเผยแพร่เข้าสู่เมืองจีนในสมัยราชวงศ์ถัง ต่อมา เมื่อถูกกษัตริย์ในราชวงศ์ถังบางองค์ลิดรอนความเชื่อดังกล่าว ทำให้ลัทธิมณีกลายเป็นลัทธิใต้ดิน และถูกเรียกว่า ม้อก่า หรือลัทธิอสูร ก่อนจะปรับเปลี่ยนตัวเองเป็น เม้งก่า หรือลัทธิแห่งแสงสว่าง ซึ่งเน้นคำสอนให้รวมตัวกันต่อสู้กับความอยุติธรรม เมื่อพระราชามีความไม่เที่ยงธรรม

เม้งก่า ต่อต้านมองโกลจนทำให้จูหยวนจางขึ้นครองราชย์เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิง แต่กลับถูกปราบปราม เพราะกลัวจะเป็นหอกข้างแคร่ในอนาคต จนต้องปรับเปลี่ยนตัวเองอีกครั้งเป็นลัทธิบัวขาว ซึ่งเชื่อเรื่องการเกิดใหม่ของพระศรีอริยเมตไตรย ทดแทนความเชื่อเดิมเรื่องการเกิดใหม่ของเทพแห่งเม้งก่า



!|<Renovatio>|
#9   !|<Renovatio>|    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

เม้งก่ามาจากเปอร์เซียครับ มาจากนิกายบูชาไฟทางโน้นแผ่ขยายอิทธิพลเข้ามาในจีน (นิกายบูชาไฟนี้มีการกล่าวใน มังกรคู่สู้สิบทิศ ด้วยครับ)

ครับผม



เซียวสี่บ้อ (rynekel
#10   เซียวสี่บ้อ (rynekel    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

ถ้าลัทธิบูชาไฟ เกิดจากเปอร์เซีย

ในเทพนิยายของเปอร์เซีย จะมี Atar (ไฟ) ซึ่งเป็นบุตรของ Ahura Mazda (Wise lord ของเปอร์เซีย)

ถ้าให้เดา นิกายบูชาไฟ ก็น่าจะมาจาก Atar นี้ล่ะครับ (เดานะ เดา)

ถามว่าAtar นี้สำคัญยังไง ถ้าตามเรื่องเล่าก็คือ Atar ร่วมมือกับ Mithra (เทพที่ดังที่สุดของ persia) ปราบเจ้าปีศาจAzhi Dahaka คืนความสงบให้กับมวลมนุษย์อะไรประมาณนี้ล่ะครับ ไม่ได้อ่านนานชักลืมๆไปแล้วเหมือนกัน



ต้วนยี้
#11   ต้วนยี้    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

ว่ากันจริงๆ คงเป็นบรรดาค่ายสำนักพรตต่างๆ ครับที่นับถือเต๋า เพราะเริ่มมาตั้งแต่ยุคราชวงศ์โจวราว 600 ปีก่อนคริสตกาล ศาสนาพุทธเริ่มมามีอิทธิพลในประเทศจีนทีหลังในฐานะศาสนาของต่างชาติในยุคตงจิ้นหลังยุคราวงศ์ฮั่นและสามก๊ก โดยการนำเข้ามาของพวกอู่หูที่เข้ามารุกรานจีนในช่วงราชวงศ์ตงจิ้น ภาคเหนือของจีนตอนนั้นหันมานับถือศาสนาพุทธกันมากในขณะที่ทางใต้ยังไม่เฟืองฟู มีการแลกเปลี่ยนพุทธธรรมระหว่างจีนและอินเดียราวคริสต์ศตวรรษที่ 3 เช่น ภิกษุจีนฟาเสี่ยนได้จาริกไปยังอินเดียและลังกาในปี ค.ศ.389 ส่วนท่านกุมารชีวะก็ได้เดินทางจากอินเดียมาเผยแผ่พระธรรมในจีน ท่านโพธิธรรมหรือในหนังจีนกำลังภายในเรียกท่านว่าตั๊กม้อ ได้เดินทางมายังจีนในรัชสมัยพระเจ้าซวนอู่ตี้แห่งราชวงศ์เป่ยเว่ย ราวคริสต์ศตวรรษที่ 5 ซึ่งเป็นยุคที่ดินแดนทางตอนเหนือของจีนถูกปกครองโดยต่างชาติเรียกว่ายุคราชวงศ์เหนือใต้ ซึ่งเป็นพุทธธรรมสายเซน จริงๆ แล้วปรากฏหลักฐานว่าท่านตั๊กม้อได้เดินทางจาริกในส่วนจีนทางใต้ ที่ปกครองโดยพวกฮั่นก่อน แต่ทางหนานเว่ยทางใต้ยังคงให้ความสำคัญกับศาสนาเต๋ามากกว่า อาณาจักรเป่ยเว่ยจึงเป็นเหมือนยุคทองของศาสนาพุทธนิกายเซนในจีน เนื่องจากได้รับการนับถือจากบรรดาเชื้อพระวงศ์เป่ยเว่ยอย่างมาก อาณาจักรเป่ยเว่ยสถาปนาขึ้นด้วยทูปากุย เดิมเป็นพวกมองโกลเซียนเปย ได้รวบรวมชนเผ่าทางเหนือและรวบรวมอาณาจักรทางเหนือที่แตกแยกออกมา 16 อาณาจักรหลังจากสิ้นราชวงศ์ตงจิ้นของพวกแซ่สุมา พวกเป่ยเว่ยเป็นพวกนิยมฮั่น (Hunization) อย่างมากก่อนการเดินทางมาจาริกของท่านตั๊กม้อ เป่ยเว่ยก็กลายเป็นฮั่นไปหมดแล้ว ศิลปกรรมในศาสนาพุทธที่สำคัญก็คือพระพุทธรูปจำนวนมากที่ประดิษฐานอยู่ตามถ้ำต่างๆ ที่หยงกัง ตุนหวง เป็นต้น ดังนั้นหากท่านตั๊กม้อเป็นผู้สร้างวัดเส้าหลินจริง วัดเส้าหลินก็เริ่มมาตั้งแต่ ค.ศ.500 หรือราว 1500 ปีมาแล้วในประเทศจีน (จริงๆ ว่ากันว่าวัดเส้าหลินมีมานานกว่าที่ท่านตั๊กม้อจะเข้ามาจาริกอีก แต่ไม่น่าจะเกินยุคตงจิ้นขึ้นไป) ศาสนาและลัทธิอื่นๆ เริ่มเข้ามาเผยแผ่ในจีนอย่างจริงจังจริงๆ ในช่วงราชวงศ์ถัง ซึ่งเป็นยุคทองของจีน และจีนก็เป็นมหาอำนาจของโลกในเวลานั้นเช่นกัน เนื่องจากฉางอันกลายเป็นเมืองสากลที่มีชนชาติต่างๆ มาพบกันมากมาย ลัทธิแมนนีกิ หรือ Manichaeism เป็นลัทธิผสมผสานระหว่างศาสนาคริสต์และศาสนาโซโรแอสเตอร์ชองเปอร์เซีย ใน ค.ศ.635 โดยโอโลเพนชาวเปอร์เซีย ได้ทูลขอพระบรมราชานุญาตจากพระเจ้าถังไท้จง (แต่ในพงศาวดารจีนบอกว่าโอโลเพนเป็นชาวต้าฉินหรือโรมัน) ในการเผยแผ่ศาสนาในจีน ลัทธิแมนนีกินี้เองที่เป็นต้นกำเนิดของลัทธิม้อก่าของจีน ซึ่งออกเสียงพ้องกับคำว่ามารในภาษาจีน จึงถูกเรียกว่าพรรคมาร ลัทธิม้อก้าหรือเม้งก้าจึงเริ้มก่อตั้งขึ้นเมื่อราว 1300 ปีที่แล้ว หลังจากเส้าหลิน

ลัทธิศาสนาต่างๆ ผ่านยุคมิคสัญญีมาจนผ่านราชวงศ์ซ่งมาได้ ซึ่งในขณะนั้นลัทธิเต้าและหยูมีอิทธิพลเหนือกว่าศาสนาต่างชาติ นิยายกำลังภายในจีนจึงยังไม่ปรากฏค่ายสำนักที่มีที่มาจากศาสนาต่างชาติ เว้นแต่วัดเส้าหลินที่มักถูกอ้างอิงเสมอๆ ในยุคที่มีราชวงศ์ซ้องหรือซ่งเป็นฉากหลัง โดยมีชนชาติอื่นสร้างอาณาจักรของตนเองในเขตประเทศจีนปัจจุบันเช่น พวกคีตัน หรือพวกซี่ตาน พวกถูลู่ฟาน หรือธิเบต พวกซีเซี่ย (ในเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยปัจจุบัน) พวกต้าเหลียวหรืออาณาจักรเหลียว และอาณาจักรต้าลี้ เป็นต้น ตามที่ปรากฏเป็นฉากหลังในแปดเทพอสูรฯ โดยในตอนนี้ก็มีการกล่าวถึง วัดเส้าหลินเช่นเดิม และปรากฏว่ามีชื่อพรรคยาจกปรากฏขึ้นเช่นกัน (ของเซียวฟง) ดังนั้อาจอนุมานได้ว่า พรรคยาจกปรากฏตัวหลังวัดเส้าหลิน และเม้งก่า คือในยุคราชวงศ์เป่ยซ่งหรือราว 1000 ปีที่ผ่านมา

การก่อร่างสร้างตัวของพวกหนี่เจินหรือนูรเชน หรือแมนจู ได้อากูต้าเป็นผู้นำสามารถล้มล้างอาณาจักรต้าเหลียว (ที่เซียวฟงเป็นอ๋อง) และซีเซี่ย ซีตันลงได้ พร้อมก่อตั้งอาณาจักรจินได้จนสามารถยึดครองจีนตอนเหนือ ทำให้ราชวงศ์ซ่งต้องอพยพลงใต้สถาปนาราชวงศ์ซ่งใต้ขึ้น พวกจินยังคงให้ความสำคัญกับศาสนาและวัฒนธรรมของชาวจีนมากกว่า พร้อมๆ กับกำเนิดของลัทธิเต๋านิกายช้วนจิน ก่อตั้งโดยเฮ้งเตงเอียง หลังพรรคยาจกราว 200 ปี ลัทธิเต๋าได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้านเป็นอย่างมาก เพื่อชดเชยกับการที่ต้องเป็นชนชั้นล่างในสังคมของอาณาจักรจิน อาณาจักรจินถูกทำลายลงต่อมาโดยพวกมองโกลภายใต้การนำของเจงกิสข่าน ตามที่ปรากฏเป็นฉากหลังของมังกรหยกภายก๊วยเจ๋ง นักพรตนิกายช้วนจินศิษย์ของเฮ้งเตงเอี้ยงที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ที่ในภาคนิยายเรียกว่า คูชู่กีนั้น ได้เดินทางไปบรรยายธรรมให้กับเจงกิสข่านจริงๆ ตามที่มีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ (ซึ่งหากนับเวลานี้ สำนักสุสานโบราณก็ได้ถือกำเนิดแล้วเช่นกัน)

มองโกลสามารถโค่นจักรวรรดิหนานซ่งลงได้ หลังยุคของเอี้ยก้วยในมังกรหยกภาคต่อมา ซึ่งก็ยังปรากฏชื่อของวัดเส้าหลิน ส่วนสำนักช้วนจินกลับต้องหนีภัยจากมองโกลแตกกระสานซ่านเซ่นไป เหลือเพียงสำนักสุสานโบราณที่มีเพียงเอี้ยก้วยและเซียวเล่งนึ่งเท่านั้น ท้ายๆ มังกรหยกภาคนี้ปรากฏชื่อของฮ้อจกเต๋าแห่งคุนลุ้นแล้ว สำนักคุนลุ้นจึงน่าจะถือกำเนิดมาหลังจากค่ายสำนักข้างต้น อย่างไรก็ดีปรากฎว่าเทือกเขาคุนลุ้นเองก็มีดอยต่างๆ มากมาย สำนักที่ใช้ชื่อว่าสำนักคุนลุ้นอาจจะมีมาก่อนยุคนี้อีก หรือค่ายสำนักต่างๆ ที่อาศัยชื่อขุนเขาเป็นชื่อสำนักก็อาจจะมีมาแล้วเช่นกัน เช่น ซงซาน เหิงซาน หางซาน หัวซาน และไท้ซาน รวมถึงสำนักเทียนซาน และง้อไบ้ด้วยเช่นกัน ในยุคของกุบไลข่านยังปรากฏว่ายังมีลัทธิเม้งก่า หรือแมนนิกีอยู่ มีเพียงลัทธิบัวขาว หรือ ไป๋เหลียนเจี้ยว ที่บูชาพระศรีอริยเมตตรัยเท่านั้น ที่ทางราชสำนักหยวนไม่ยอมรับ เนื่องจากแอนตี้มองโกล ในทางกลับกันกุบไลข่านไม่ห้ามกิจกรรมของศาสนาอื่นๆ แต่ก็ให้การสนับสนุนลัทธิลามะอย่างมากมายอีกด้วย โดยเฉพาะลามะธิเบตนามปาสปา หรือปาซือปา ได้รับการยกย่องให้เป็นราชครูของอาณาจักรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกโบราณนี้ ซึ่งเท่ากับขยายช่องว่างระห่างมองโกลและชาวฮั่นให้แยกออกจากกันมากขึ้นไปอีก นอกเหนือจากระบบกฎเกณฑ์ทางสังคมที่กำหนดให้ชาวฮั่น โดยเฉพาะฮั่นทางใต้เป็นชนชั้นต่ำสุดของสังคม

ลัทธิบัวขาวได้ผนวกเอาคำสอนของเม้งก่า เผยแพร่การมาของผีบุญผู้ที่จะมาปลดปล่อยชาวฮั่นจากการกดขี่ของชาวมฮงโกล พร้อมๆ กับการเกิดของขบวนการหงจินเพื่อต่อต้านมองโกล ตามที่ปรากฏเป็นฉากหลังของภาคเตียบ้อกี้ ในภาคนี้มีสองสำนักอย่างน้อยเกิดขึ้น คือ ง้อไบ้ของก๊วยเซียง และบู้ตึ้งของเตียซำฮง รวมถึงสำนักคงท้งอีกด้วย (ในฉากการรวมขบวนพรรคธรรมะบุกดอยจรัส) ในช่วงท้ายของภาค ปรากฏชื่อจูหยวนจางเป็นผู้นำและเชื่อกันว่าเป็นสมาชิกของลัทธิบัวขาวหรือเม้งก่า สามารถล้มราชวงศ์หยวนและสถาปนาราชวงศ์หมิง โดยนำมาจากชื่อพรรคจรัสหรือเม้งกา ที่แปลว่าแสงสว่างนั้นเอง ในยุคของจูหยวนจางหรือหงอู่ตี้นี้เอง หากอ่านนิยายเล่มอื่น อย่างเทพมารฯ จะพบว่ามีสำนักอื่นๆ อยู่มาก แต่มีเส้าหลิน และบู้ตึ้งเป็นตัวยืนพื้น นอกจากนี้ยังมีสำนักฉางไป๋ซึ่งตามชื่อยอดเขาฉางไป๋ทางภาคอีสานของจีนด้วย ซึ่งหากนำเอาเรื่องกระบี้เย้ยฯ ที่คาดว่าฉากหลังเป็นช่วงสงบสุขในราชวงศ์หมิง สมัยหย่งเล่อลงมาแล้ว ก็จะปรากฏชื่อสำนักอีก โดยเฉพาะห้าขุนเขากระบี่ และสำนักชิงเฉิง อย่างไรก็ตามสำนักชิงเฉิงหรือแชเสี่ยนี้ปรากฏว่ามีชื่ออยู่มานานมากแล้ว หรือง้อไบ้ที่ไม่ใช่ของก๊วยเซียงก็ปรากฏชื่อในนิยายปรัมปราอย่างเทพยุทธเขาซูซัน ก่อนมังกรหยกเสียอีก สำนักเหล่านี้จึงอาจจะมีมาก่อนก็ได้ เว้นแต่เส้าหลิน เม้งก่า บัวขาว และ บู้ตึ่งเท่านั้น ที่สืบค้นได้ว่ามีตัวตนจริงๆ



เหยี่ยวเงิน
#12   เหยี่ยวเงิน    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

อึ้งบวกทึ่ง หารายละเอียดมาได้ไงเนี่ย



จื่อหลิง (อาตี๋จื่อห
#13   จื่อหลิง (อาตี๋จื่อห    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

สรุปว่า ... นิยายของผู้แต่งแต่ละคน ก็มีมุมมองและการใช้ชื่อสำนักต่างๆที่ผิดแผกกันไป โดยส่วนมากจะไม่ค่อยถือเอาความเป็นจริงตามประวัติศาสตร์มากนัก .... ฉะนั้นเรื่องช่วงเวลาการเกิดก่อน-หลัง จึงมิอาจจะอ้างอิงนิยายได้มากนัก ( สังเกตุจากหลายๆท่านที่มีบทวิจารณ์และข้อมูลแน่นปึ้ก) .....

อย่าไปคิดลึกให้ปวดขมอง เอาว่าอ่านแล้วสนุกเป็นพอนะขอรับ



lastphenix
#14   lastphenix    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

ทึ่งคุณต้วนยี้มาก มีข้อมูลเพียบ อย่างกับเคยทำรายงานเอาไว้ก่อนแล้ว ขอบก๊อปเก็บไว้เผยแพร่ต่อนะครับ ครบถ้วนกระบวนความดีแท้ ขอบคุณที่แบ่งปันความรู้ครับ



อ้ายหนุ่มพลังม้า
#15   อ้ายหนุ่มพลังม้า    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

วัด เส้าหลิน ก่อตั้ง เพราะเหตุว่า เป็น ที่พำนัก ของ พระหลายๆท่าน ที่ ธุดงค์ผ่าน จึงตั้งเป็นวัด ขึ้นอย่างเป็นทางการ ครับ

เส้าหลิน หรือ เสี้ยวหลิมยี่ (วัดในป่าน้อย) ถือกำเนิด ก่อน ปรมาจาร์ย ตั๊กม้อ จะ ผ่านมา


30 ปี ครับ... เพราะหลังจาก ตั๊กม้อ ไป เทศนา ต่อ พระเจ้าซวนอู่ตี้แห่งราชวงศ์เป่ยเว่ย แรงๆ

พระเจ้าซวนอู่ตี้แห่งราชวงศ์เป่ยเว่ย ถามตั๊กม้อว่า ... พระองค์ทำบุญทำทานมามากมาย สร้างวัดอาราม... เยอะแยะแบบนี้ จะได้ไปจุติบนสวรรค์ขั้นใหน

ตั๊กม้อ..บอกว่า ไม่ได้ไปจุติ ขั้นใหน... เพราะการทำบุญ ของฮ่องเต้ นั้นทำบุญ เพื่อหวังผล... ตอบแทน ดังนั้นจึงไม่ได้บุญ...พระเจ้าซวนอู่ตี้แห่งราชวงศ์เป่ยเว่ย จึงพิโรธ แต่ก็ปล่อยตั๊กม้อ...ไป

ตั๊กม้อ ได้ ธุดงค์ผ่านมา ถึง ที่พำนักชั่วคราว(แถววัดเส้าหลิน) จึงเข้าไป นั่งวิปัสนา ใน ถ้ำแถบนั้น เป็นเวลา 9ปี(ไม่ออกมา ไม่กินข้าวกินน้ำ ถ่าย)

พระวัดเส้าหลินแถวๆนั้นจึง เลื่อมใส เมื่อตั๊กม้อ ออกจากถ้ำ มาหลัง 9ปี จึงมา เป็น พระอาจาร์ย วัดเส้าหลินตามคำเชิญ ของ บรรดาพระวัดเส้าหลิน จนกลายเป้นตำนาน...


เพราะ คำสอนของตั๊กม้อ ต่างจาก คำสอนทั่วไป


จิตใจจะแข็งแรงได้ สุขภาพต้องแข็งแกร่งไปด้วย

คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นรุ่นแรก จึงได้ถ่ายทอดแก่ พระในวัดนั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


ตั้งแต่ นั้นมา พระวัดเส้าหลิน ก็ เริ่มมวรยุทธ.... จนถึงขั้นเหนือ จอมยุทธ ทั่วหล้า...

และเป็นจุดเริ่มต้น ของ วรยุทธ...ทุกแขนงดั่งที่กล่าวขานกันมา



เซียวเซียวเทียน
#16   เซียวเซียวเทียน    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

แล้วสำนักสราญรมย์เกิดในยุคไหน



ปวยพ้ง
#17   ปวยพ้ง    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

ข้อมูลเพียบครับกระทู้นี้ เอาภาพ "หัวซาน" มาฝากครับ จากเวปผู้จัดการ

http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9490000009296



EXXR
#18   EXXR    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

สราญรมย์ นับลำบากครับ เพราะกิมย้งแต่งขึ้นเอง ไม่มีอยู่จริง
เม่งก่าจริๆงมีก่อนมังกรหยกภาค1-2 เพียงแต่ไม่มีการกล่าวถึง ดูได้จากเตียบ่อกี้ เป็นประมุขรุ่น30กว่า(ถ้าผมจำไม่ผิดนะ)



EXXR
#19   EXXR    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

ลองซื้อหนังสือสกัดจุดยัทธจักรมังกรหยก มาอ่านดูครับ มีบอกความเป็นมาของสำนักต่างๆในมังกรหยก แบบตามประวัติศาสตร์เลย



กระบี่หัก (charan_ck
#20   กระบี่หัก (charan_ck    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

เพิ่งเข้ามาถึง โห...สุดยอดครับ ได้ความรู้อีกเพียบ

น่าเก็บเป็นกระทู้แนะนำเลยนะครับเนี่ย



  • 1
  • 2
ตอบกระทู้
ชื่อ
รหัส กรอกตัวอักษร ตามภาพ
ข้อความ


emo-smile emo-happy emo-lol emo-enjoy emo-kiku emo-cool emo-hoho emo-drool emo-hungry emo-kiss emo-sorry emo-sad emo-cry emo-tear emo-question emo-doubt emo-shock emo-redface emo-plz emo-peevish emo-angry emo-moody emo-sneer emo-makefaces emo-good emo-touched emo-love emo-bore emo-tired emo-vomit
bold italic underline img link superscript subscript size color space justifyleft justifycenter justifyright quote box youtube