ใครมีวิชาตัวเบาสุงสุด
| นางมารน้อยเกาะดอกท้อ | #201   นางมารน้อยเกาะดอกท้อ    [ 24-07-2015 - 18:23:36 ]  | 
|  | สราญรม วิชาตัวเบาน่าจะสูงสุด แต่ละวิขา เทพๆทั้งนั้น  | 
| ซูซัน | |
|   | ความรู้ข้าน้อยนิด เท่าที่นึกออกก็มีอยู่เท่านี้ วิ่งเร็วสุด - หลวงจีนกวาดลานแบกเซียวหยวนซันกะมู่หยงป๋อไปด้วย เซียวฟงยังตามไม่ทันเลย กระโดดไกลสุด - เจี๊ยะพั่วเทียนกระโดดได้ไกลหลายสิบวา กระโดดสูงสุด - ซีจุ๊แบกนางเฒ่าทาริกาและโอ้วเหล่าต้ายังกระโดดสูงเกือบสิบวา(ตอนนั้นพึ่งได้รับพลังภายในของอู่หยาจื่อมาคนเดียวเอง) และแน่นอนว่า อู๋หยาจื่อ นางเฒ่าทาริกา และ ลี้ชิวจุ้ย ก็คงกระโดดสูงได้พอๆกันนี้ Dashเร็วสุด - มีเยอะหน่อย เอาตัวที่เห็นชัดๆก็มี ตงฟางปุป้าย/เตียซำฮง/แม่นางชุดเหลือง | 
| ชอบหลิวอี้เฟยจุง | #203   ชอบหลิวอี้เฟยจุง    [ 02-08-2015 - 21:11:55 ]  | 
|  | สุสานโบราณครับ มีในหนังสือ เอี้ยก้วยเจ้าอินทรีบอกไว้ว่าวิชาตัวเบาสำนักสุสานโบราณเป็นหนึ่งในแผ่นดิน  | 
| ฝ่ามือเหล็กลอยทวนน้ำ | |
|   | นี่ก็เป็นคำพูดของเอี้ยก้วยเช่นกัน ตอนคิ้วโชยยิ่มตาย "ผู้เฒ่าผู้นี้จัดเป็นปรมาจารย์แห่งวิชายุทธ ฝ่ามือเหล็กล้ำเลิศ วิชาตัวเบากระเดื่องเลื่องลือเป็นหนึ่งในแผ่นดิน แต่กลับต้องมาถูกฝังอยู่ในดินแดนเปลี่ยวร้าง น่าสะทกสะท้อนเป็นอย่างยิ่ง" | 
| เย่ตี่ | #205   เย่ตี่    [ 10-08-2015 - 21:31:04 ]  | 
|  | นิยายของกิมย้ง วิชาตัวเบาแปรผันโดยตรงกับกำลังภายใน พวกกำลังภายในสูงส่งก็วิชาตัวเบาเป็นเลิศทั้งนั้นอะครับ คงไม่พ้น เจี๊ยะพั่วเทียน ซีจุ๊ หลวงจีนกวาดลาน ( ต้วนอี้ก็อาจจะเป็นไปได้ ) ชอลิ้วเฮียง ก็ไม่เบา โกวเล้งส่งเข้าประกวด | 
| จอมยุทธ_หิญ | #206   จอมยุทธ_หิญ    [ 13-08-2015 - 08:20:19 ]  | 
|  | เอาอีกและ คำถามที่หาคำตอบสุดท้ายไม่ได้ เพราะอิทธิฤทธิ์เช่นว่านั้นไม่มีอยู่จริง ค้างคาวปีกเขียวอุ้ยเจ็ดเชี้ยก็เก่งที่สุดในภาคนั้น ภาคอื่นก็ว่าคนอื่นเก่งสุด จะเทียบจากอะไรครับ...วิชาตัวเบาไม่รู้ตอบไม่ได้. แต่วิชาย่องเบาตีนแมวผมว่าขโมยขโจรไงครับเก่งสุด เหอๆๆ  | 
| เดินตามฝัน | |
|   | ถ้านิยายกิมย้ง วิชาตัวเบาอันดับ1คือ บาทาเหินหาว ของพรรคสราญรมณ์ครับ  | 
| เด็กหญิงไร้นาม | #208   เด็กหญิงไร้นาม    [ 26-02-2018 - 14:38:05 ]  | 
|  | มนุษยค้างคาวซิค่ะ       | 
| เด็กหญิงไร้นาม | #209   เด็กหญิงไร้นาม    [ 08-03-2018 - 10:44:46 ]  | 
|  | บาทาเหินหาว  น่าคิดค่ะ  | 
| ก๊อปเขามา | |
|   | Cr ; สามัญชน จนและโง่ ในทางศาสนาวิชาตัวเบาคงเปรียบได้กับจิตที่ปล่อยวางหลุดพ้นจากพันธนาการจนตัวเบา สาวกพุทธนิกายต่างๆหรือพวกเต๋ามีวิธีบบรรลุขั้นสูงสุดไม่เหมือนกันเช่นเดียวกับวิชาแต่ละสำนัก | 
| ก๊อปเขามา | |
|   | พระพุทธศาสนาได้เข้ามาสู่ประเทศจีนเป็นเวลากว่า 2,000 ปีมาแล้ว ประมาณหลังปี พุทธศักราช 65 คณะสงฆ์แห่งพระพุทธศาสนาตามบันทึกกล่าวว่า ได้รับการอุปถัมภ์บำรุงจากกษัตริย์ ซึ่งอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดเกียงซู ( Kiang Su ) อันตั้งอยู่ไม่ไกลจากภูมิลำเนาของท่านขงจื้อ คณะสงฆ์กลุ่มแรก น่าจะเดินทางมาถึงก่อนหน้านี้แล้วหลายร้อยปี ดังนั้น พระภิกษุชาวอินเดียและเอเชียกลาง จำนวนหลายพันรูปได้เดินทางมาสู่ประเทศจีน ทั้งทางบกและทางเรือ ในบรรดาพระสงฆ์ที่นำพระพุทธศาสนามาสู่ประเทศจีนเหล่านี้ ไม่มีใครโดดเด่นเทียบเท่าท่านโพธิธรรมได้เลย แต่ในยุคของท่าน ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก นอกจากสานุศิษย์ของท่านเพียงไม่กี่คน ท่านโพธิธรรมเป็นสังฆราชแห่งนักบวชเซ็น ( มหายาน ) และนักศึกษากังฟูรวมแล้วหลายล้านคน ท่านเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในพงศาวดารหลายแห่ง | 
| ก๊อปเขามา | |
|   | Cr ; สามัญชน จนและโง่ การจัดลำดับจอมยุทธ ด้านวิชาตัวเบา จากสูงสุด 1. ??? 2. นิรชนเลเวล 3 3. นิรชนเลเวล 2 4. นิรชนเลเวล 1 5. อริยะชนเลเวล 3 6. อริยะชนเลเวล 2 7. อริยะชนเลเวล 1 8. ปัญญาชนเลเวล 3 9. ปัญญาชนเลเวล 2 10. ปัญญาชนเลเวล 1 11. ปุถุชนเลเวล 3 12. ปุถุชนเลเวล 2 13. ปุถุชนเลเวล 1 | 
| ก๊อปเขามา | |
|   | Cr ; ดังตฤณ มักมีผู้สงสัยว่าพระอรหันต์ท่านสัมผัสว่าใครเป็นอรหันต์ด้วยกันแบบไหน อันนี้หากกล่าวเป็นขั้นๆ ตามสัมผัสอันเกิดจากกระแสจิตของปุถุชนและอริยบุคคล เรียงลำดับจากต่ำไปหาสูง ก็คงพออนุมานได้ดังนี้ ๑) ปุถุชนผู้มีราคะและโทสะกล้าแข็งขนาดยอมผิดศีลได้ ย่อมมองออกว่าใครมีราคะและโทสะกล้าแข็งขนาดยอมผิดศีลได้ กับทั้งเป็นพาลพอจะเหมาว่าคนทั้งโลกก็อาจผิดศีลได้เหมือนตนหากถูกเร้าใจมากพอ ๒) กัลยาณชนผู้มีความดีงาม ย่อมมองออกว่าใครมีความดีงาม แต่จะมองไม่ออกว่าใครบ้างที่ว่างจากความยึดมั่นว่ากายใจเป็นตัวตน ๓) อริยบุคคลชั้นโสดาบันผู้สามารถสัมผัสนิพพานเพราะว่างจากอาการยึดมั่นว่ากายใจเป็นตน ย่อมมองออกว่าใครว่างจากอาการยึดมั่นว่ากายใจเป็นตน แต่ยังไม่อาจรู้ได้ว่าใครบ้างมีราคะ โทสะ โมหะเบาบางลงแล้ว เพราะตนเองยังมีราคะ โทสะ และโมหะได้เท่าเดิม ๕) อริยบุคคลชั้นสกทาคามีผู้มีราคะ โทสะ และโมหะเบาบางลงแล้ว ย่อมมองออกว่าใครมีราคะ โทสะ โมหะเบาบางลงแล้ว แต่ยังไม่อาจรู้ได้ว่าใครบ้างที่สิ้นราคะและโทสะ ๖) อริยบุคคลชั้นอนาคามีผู้หมดความยินดีในกามคุณ และมีใจอันว่างจากการถูกกระทบกระทั่ง ย่อมมองออกว่าใครละกามคุณได้แล้ว และมีใจอันปลอดจากการกระทบกระทั่งแล้ว แต่ยังไม่อาจรู้ได้ว่าใครละความรู้สึกว่าเป็นตนได้เด็ดขาด ๗) อริยบุคคลชั้นอรหันต์ผู้ทรงฌาน มีความสามารถล่วงรู้วาระจิตคนอื่นได้แจ่มแจ้งแทงตลอด ย่อมรู้ได้ว่าจิตอันรู้ตื่นเบิกบานถาวรเช่นตนเป็นอย่างไร กับทั้งมองลงมาเห็นระดับจิตที่ต่ำกว่าตนได้ทะลุปรุโปร่ง แยกแยะถูกว่าใครเป็นปุถุชน เป็นกัลยาณชน หรือเป็นอริยบุคคลชั้นไหนๆ พระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นพระองค์ นี่ถือเป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพุทธศาสนา พระอรหันต์ท่านมีประสบการณ์ทางจิตอย่างไรไม่มีใครในระดับจิตต่ำกว่าท่านจะไปล่วงรู้ได้ เรารู้เพียงคำพูดว่าพวกท่านมีจิตที่พรากแล้วจากกายใจ ไม่ยึดแล้วว่ากายใจเป็นตัวตน จึงได้แต่อนุมาน ว่าพวกท่านมองตัวเองด้วยความรู้สึกประมาณเดียวกับที่คุณมองคนอื่น ถ้านี่เป็นมุมมองที่แปลกประหลาดและยากจะจินตนาการ ก็แปลว่าเป็นเรื่องอจินไตย คือคุณ ‘ไม่ควรคิด’ ว่าเป็นอย่างไรเพียงด้วยการอาศัยประสบการณ์สามัญของตนเองครับ | 
| ก๊อปเขามา | |
|   | ทั้งในยุทธภพและในสังคมปัจจุบันปากคนเหมือนอาวุธทิ่มแทงทำร้ายจิตใจ การมีสติรู้เท่าทันความโกรธ เกลียด เคียดแค้น ชิงชัง ก็คือการฝึกวิชาตัวเบา ความคิดและจิตของเรานั้นว่องไวยิ่งนักถ้าไม่มีสติย่อมตามกิเลสตัณหาไม่ทัน ้รักโลภโกรธหลงบุญคุณความแค้นคือจุดอ่อนที่ชาวยุทธควรรู้ตัวและรู้เท่าทัน | 
| ก๊อปเขามา | |
|   | ร่างกาย(ปุถุชน) ความคิด(ปัญญาชน) จิต(อริยะชน) และความรู้ตัว(นิรชน) เรียงลำดับวิชาตัวเบาจากช้าไปเร็วสุดอ้างอิงจาก 2 ที่คือ 1_ในพุทธวัชรยาน มาจากคัมภีร์ธิเบต สำหรับผู้ที่ก้าวพ้นความเป็นปุถุชนแล้วเห็นว่า ร่างกาย ความคิด จิตและการรู้ตัว คือกายทั้ง 4 ที่ประกอบกัน Cr ; สามัญชน จนและโง่ 2_ในวิชชาธรรมกาย http://th.m.wikibooks.org/wiki/วิชชาธรรมกาย | 
| ก๊อปเขามา | |
|   | การฝึกลมปราณ การเข้าฌาน การทำสมาธิ การทำวิปัสสนา ก็เพื่อ รู้กาย รู้ทันความคิด รู้สภาพจิตและรู้ตัว ผู้สำเร็จมรรคผลย่อมเป็นยอดยุทธในวงการศาสนาและยุทธจักร  | 
| zhangsanfeng | #217   zhangsanfeng    [ 03-02-2019 - 21:29:31 ]  | 
|  | ให้เครดิต ค้างคาวปีกเขีว จริงๆอยากให้ขันทีวังหลวงผู้คิดค้นคัมภีร์ทานตะวันแต่ว่าไม่เคยเห็นหน้าเห็นตา555  | 









